5 เกมที่ใช้จัดแข่ง eSport ที่ไม่ได้เล่นเพื่อความสนุกเพียงอย่างเดียว

eSport เป็นกีฬาสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังได้รับความสนใจจากทั่วทุกสารทิศในขณะนี้ เรื่องน่าสนใจคือนักกีฬาของ eSport ไม่ได้มีค่าเฉลี่ยที่สูงนัก ดังนั้นการเล่นเกมของเด็ก ๆ ก็อาจกลายเป็นบันไดสู่การก้าวเข้าไปเป็นนักกีฬา eSport ที่มาเพียงจากงานอดิเรกในเวลาว่างเท่านั้น การทำความเข้าใจกิจกรรมยามว่างของเด็กสมัยใหม่นี้อาจกลายเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยากสำหรับผู้ปกครอง แต่ก็ไม่มากเกินจะเข้าใจได้ เกมไม่ใช่เพียงแค่สิ่งสร้างความบันเทิง หรือสิ่งกระตุ้นเร้าความรุนแรงก้าวร้าวที่อยู่ในตัวอย่างที่สังคมยัดเยียดให้เป็นมาตลอด ในวันนี้เกมกลายเป็นหนึ่งกีฬาสำคัญของโลกไปแล้ว

5 เกมนี้ เล่นอย่างไรก็ไม่ไร้ประโยชน์

1.LoL: League of Legends

การเล่น LoL ในยามว่างแน่นอนว่าไม่ใช่เพียงแค่การใช้เวลาไปโดยเปล่าประโยชน์อย่างแน่นอน เพราะเป็นเกมที่ต้องอาศัยทีมเวิร์คเป็นอย่างมาก ทำให้สามารถฝึกการเข้าสังคมและการทำงานร่วมกับผู้อื่น หรือกระทั่งการเล่น LoL ร่วมกันกลายเป็นกิจกรรมนำร่องสำหรับการเข้าสังคมในกลุ่มเพื่อนใหม่ที่ยังไม่สนิทกัน หรือในกลุ่มสมาชิก Fun88 Live ได้อีกด้วย

2.PES: Pro Evolution Soccer

ถ้าพูดถึงเกมเตะบอลเมื่อสมัยก่อนคงต้องยกให้วินนิ่ง แต่ในสมัยนี้ได้พัฒนามาเป็น PES แล้ว ซึ่งยังคงเสน่ห์ของความเป็นเกมฟุตบอลได้เป็นอย่างดี ทั้งยังสอนเรื่องเกี่ยวกับมิตรภาพ ให้รู้จักผลการแพ้-ชนะของแต่ละเกม ซึ่งเป็นสัจธรรมของการเล่นกีฬาเลยทีเดียว

3.Clash Royale

ไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นการเล่นเกมแนว Tower-Defense ในการแข่งขัน eSport แต่ Clash Royale เป็นเกมแนววางแผนที่เหมาะแก่การเริ่มต้นเล่นเกมสไตล์นี้มาก เพราะเป็นเกมที่สนุกและเข้าใจง่าย อีกทั้งยังได้ฝึกการทำยุทธวิธีต่าง ๆ ทำให้ได้ใช้หัวคิดตลอดเวลา

4.Tekken

เกม Tekken หากมองเผิน ๆ แล้วอาจไม่แน่ใจนักว่ามีประโยชน์ต่อผู้เล่นหรือไม่ แต่แท้จริงแล้วการเล่นเกมสไตล์ Fighting ต้องอาศัยความเร็ว การจับจังหวะ ความจำที่ดีเลิศ ผสมรวมกันเพื่อ Knock Out อีกฝ่ายให้ได้ เพราะขืนกดไปมั่ว ๆ ก็คงมีหวังต้องกินแห้วเป็นแน่

5.Tom Clancy’s Rainbow Six

เป็นอีกหนึ่งเกมที่มีแนวโน้มได้รับความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แหวกจากแนวเอาชีวิตรอดแบบ Battle Royale มาเป็นการทำงานร่วมกันเป็นทีมอีกครั้ง คล้าย ๆ กับการเล่น MOBA แบบฉบับ FPS ที่ต้องอาศัยทีมเวิร์คและการวางแผนมาอย่างดีเช่นกัน

จากงานอดิเรกสู่งานประจำ

แน่นอนว่าเกมก็เป็นหนึ่งงานอดิเรกที่เป็นที่นิยมอย่างหนึ่ง eSport ก็เป็นกีฬาที่คนทั่วโลกให้ความสนใจ ทั้งสองสิ่งอาจดูเหมือนเป็นหนทางที่ควบคู่กันไปได้อย่างราบรื่น เหมือนปูพรมแดงพร้อมโรยกลีบกุหลาบสำหรับคนชอบเล่นเกม แต่ในความเป็นจริงของนักกีฬา eSport ก็จำเป็นต้องอาศัยการฝึกฝน การเข้าขากันได้อย่างดีจากเพื่อนร่วมทีม กระทั่งการทำความเข้าใจเบื้องลึกเบื้องหลัง เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย เทคนิคหรือทริกใด ๆ ในการเล่นให้ได้เปรียบมากที่สุด ดังนั้น การที่งานอดิเรกก้าวเข้ามามีบทบาทในด้านอาชีพการงาน เวลาว่างสำหรับงานอดิเรกจริง ๆ จึงกลายเป็นอีกหนึ่งช่วงของการทำงานไปแล้ว ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าการเล่นเกมก็ไม่ใช่เรื่องร้ายเสมอไป

ย้อนรอยประวัติศาสตร์ รุ่นบรรพบุรุษของ “หมากรุก”

หมากรุกนับเป็นกีฬาในร่มประเภทหนึ่งที่ไม่จำเป็นต้องออกกำลังใด ๆ ในการแข่งขัน นอกจากใช้กำลังมันสมองในการจัดการและต่อกรกับคู่ต่อสู้ อีกทั้งมันยังเป็นหนึ่งในกีฬาชนิดต้น ๆ ที่คนทั่วโลกให้การยอมรับ และได้รับความนิยมอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นหมากรุกสากลหรือหมากรุกไทยก็ตาม ไม่รวมเกมกระดานอื่น ๆ ที่ต้องใช้สมองอย่างหนักในการออกหมัดสวนกัน ดังนั้นแล้วมันจึงกลายเป็นอีกหนึ่งงานอดิเรกที่ได้รับความสนใจ นอกจากเพื่อความบันเทิงแล้ว ยังสามารถเสริมสร้างบุคลิกภาพและฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์อีกด้วย

5 สงครามที่ไม่นองเลือด

1.สงครามบนกระดานแห่งอียิปต์ Senet

Senet คือเกมกระดานโบราณของอียิปต์ ที่มี 30 แถว แถวละ 10 ช่อง มีการเดินหมากผ่านแต่ละช่อง และเป็นการแข่งขันระหว่างผู้เล่นสองคน ทว่ากติกาการเล่นยังไม่ทราบได้แน่ชัด แต่ก็ถือเป็นหนึ่งในวิวัฒนาการการเล่นเกมกระดานที่พัฒนาไปเป็นหมากรุกในอนาคต

2.สงครามบนกระดานแห่งกรีก Zatrikion

ความแตกต่างที่น่าจดจำของ Zatrikion คือ มันเป็นการเล่นหมากรุกบนกระดานในรูปแบบของวงกลมโดยเว้นว่างตรงกลางไว้ ซึ่งดูแปลกตาและน่าสนใจมาก หมากแต่ละตัวมีข้อจำกัดในการเดินเหมือนกับหมากรุกสากลในปัจจุบัน และมีการให้ความสำคัญกับหมากตัว King เป็นพิเศษ เพราะเป็นตัวชี้ชนะของเกม

3.สงครามบนกระดานแห่งโรมัน Ludus latrunculorum

เป็นเสมือนกับการบัญชาการรบฉบับย่อ เพราะเป็นเกมที่มีกติกาค่อนข้างซับซ้อน จำเป็นต้องอาศัยทักษะการวางแผนเป็นอย่างดี โดยกติกาการเล่นคร่าว ๆ ก็คือการกำจัดฝ่ายตรงข้าม หรือการกวาดล้อมให้หมากของฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถขยับไปไหนได้

4.สงครามบนกระดานแห่งไวกิ้ง Hnefatafl

เป็นการแข่งขันระหว่างฝ่ายอารักขาโดยมีหมาก 8 ตัว และฝ่ายโจมตี 16 ตัว ที่มีจุดประสงค์ในการปกป้องและลอบสังหารหมากพระราชาซึ่งวางไว้ตรงกลางกระดาน หากหมากราชาสามารถหลบหนีไปสุดขอบกระดานได้ ฝ่ายอารักขาก็ได้รับชัยชนะ ในขณะเดียวกันฝ่ายโจมตีก็จะชนะถ้าหากจับตัวหมากราชาได้

5.สงครามบนกระดานแห่งเมโสโปเตเมีย Royal Game of Ur

เกมกระดานแห่งอารยธรรมนี้ไม่ได้ว่าด้วยเรื่องการรบแต่อย่างใด แต่เป็นเกมการวิ่งแข่งระหว่างผู้เล่นสองฝั่ง โดยมีหมากขาวหมากดำในจำนวนที่สลับกันของแต่ละฝ่าย ดำเนินเกมด้วยการทอยลูกเต๋าแบบ 4 หน้า แต่กว่าจะจบหนึ่งเกมก็กินเวลาไปกว่าครึ่งชั่วโมง แถมยังเต็มไปด้วยความตึงเครียด

กีฬาหมากรุกสำหรับทุกคน

หมากรุกไม่ใช่กีฬาที่จำกัดวงเพียงแค่ช่วงอายุหรือมีข้อจำกัดทางเพศใด ๆ เพราะมันเป็นกีฬาสำหรับทุกเพศทุกวัย อีกทั้งนอกจากจะเป็นการใช้เวลาว่างไปอย่างมีประโยชน์ ยังช่วยในเรื่องของการใช้สมองขบคิด การใช้ทักษะด้านเหตุผล แถมบางครั้งยังเป็นการได้ใช้เวลาร่วมกันกับคนในครอบครัว กับกลุ่มเพื่อนฝูง หรือกระทั่งในวันที่อยากปลีกตัวสันโดษ ก็มีเกมหมากรุกที่เราจะได้เล่นกับระบบของคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะใน PC หรือสมาร์ทโฟน หรือจะเป็นระบบออนไลน์ที่สามารถทำให้เราประชันฝีมือกับผู้เล่นจากทั่วทุกมุมโลก หรือจะจัดการแข่งขันกันเองในหมู่เพื่อนช่วงโควิดแบบไม่ต้องเจอหน้ากันก็สามารถทำได้

ก้าวสู่โลกใบใหม่แห่งความท้าทาย กับอุปกรณ์กีฬาสำหรับ “ปีนผา”

การปีนหน้าผาจำลอง นอกจากจะเป็นการออกกำลังกายแล้ว มันยังเป็นกีฬาสุดท้าทายที่จำเป็นต้องอาศัยทั้งเวลาและแรงกายแรงใจที่แรงกล้า ที่สำคัญ ยังต้องใช้พลังสมองอีกด้วย เพราะในแต่ละครั้งที่ปีนแต่ละหน้าผา ต่างก็มีความยากและสถานการณ์ที่แตกต่างกัน รวมไปถึงสภาพลักษณะของหน้าผาที่เราปีนอีกด้วย ซึ่งในบทความนี้เราจึงจะพามารู้จักกับอุปกรณ์สำหรับปีนผาจำลองแบบเบื้องต้น ที่หลาย ๆ ที่ก็มีบริการไว้ให้หมดแล้ว เพื่อผู้คนที่เริ่มต้นสนใจในการปีนผา ให้ได้มีการเตรียมพร้อมที่ถูกต้องและได้รับประสบการณ์ความสนุกที่น่าหลงใหลของการปีนผาอีกด้วย

5 อุปกรณ์สำหรับมือใหม่ รู้ไว้ใช่ว่า

1.Harness

เป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญสำหรับการปีนผา เพราะเป็นสายรัดที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการเล่นกีฬาชนิดนี้ได้อย่างปลอดภัย Harness มีหลากหลายชนิด ซึ่งการเลือกใช้ก็ต้องจำแนกไปตามความเหมาะสมของผู้ปีนผาแต่ละคน โดยประสิทธิภาพก็จะแตกต่างกันไป

2.Climbing shoes

รองเท้าปีนผาที่จะช่วยให้สามารถใช้เท้าเกาะได้แน่นหนึบขึ้นก็แทบจะเป็นสิ่งแรก ๆ เลยที่คนที่หลงใหลในกีฬาการปีนหน้าผาควรจะซื้อเก็บไว้เป็นของตัวเอง เมื่อวันที่รู้สึกว่าอยากจะมาปีนผาบ่อย ๆ แล้ว เพราะต้องเลือกไซส์และคู่ที่เหมาะกับเท้าและสไตล์การปีนของเรา

3.ถุงแป้ง

หลายคนอาจไม่รู้ว่าเวลาปีนผาไม่ใช่เพียงแค่สักแต่ปีน แล้วเหยียบแง่งที่ยื่นออกมา แต่ต้องมีถุงแป้งติดเอาไว้ด้านหลังสำหรับกันความชื้น ดูดซับเหงื่อที่มือ ทำให้สามารถจับเกาะหินได้ดีขึ้น

4.Belaying device 

เป็นการเรียกอุปกรณ์การช่วยดึงเชือก เช่น ATC ซึ่งการ Belay คือการดึงเชือกไว้ด่านล่างระหว่างที่เรากำลังปีนผาอยู่นั่นเอง จริง ๆ แล้วการปีนผาต้องมีผู้เล่นสองคนด้วยกัน คือผู้ปีน Climber และผู้รั้งเชือก Belayer แต่บางที่ก็มี Autobelay ทำให้สามารถไปปีนคนเดียวได้สบาย ๆ

5.เชือกสำหรับปีนผา

ต้องเป็นเชือกแบบพิเศษที่มีคุณสมบัติเหนียวแน่นและยืดหยุ่น แทบจะเป็นหัวใจหลักของการปีนผา ซึ่งจำเป็นต้องให้ความสำคัญในการตรวจเช็คสภาพเชือกและอุปกรณ์อื่น ๆ ก่อนใช้งานเสมอ เพราะส่งผลต่อความปลอดภัยในการปีนผาอย่างยิ่ง

การออกกำลังกายเพื่อปีนผา

กีฬาปีนผาที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน แน่นอนว่าเป็นงานอดิเรกที่จำเป็นต้องใช้กำลังกายอย่างสูง เพราะนอกจากกำลังแขนในการออกแรงเพื่อยึดจับตามแง่หินที่อยู่ตามผาแล้ว ทั้งกำลังขาและกล้ามเนื้อส่วนหลังเองก็จำเป็นสำหรับการปีนป่ายและทรงตัว ถึงแม้จะมีอุปกรณ์สำหรับรักษาความปลอดภัยแล้วก็ตาม ดังนั้นแล้วการปีนผาจึงเป็นอีกหนึ่งกีฬาที่สามารถต่อยอดไปถึงการออกกำลังกายในแบบอื่น ๆ ได้อีกด้วย เช่น การวิ่ง การว่ายน้ำ เพราะจำเป็นต้องเตรียมร่างกายให้แข็งแรงเสมอ เพื่อความพร้อมในการปีนผา ซึ่งในภายหลังได้กลายเป็นกีฬาสุดโปรดในยามว่างของใครหลาย ๆ คน เพราะนอกจากจะได้สุขภาพแล้ว ยังได้ความสนุก ตื่นเต้นและท้าทายอีกด้วย

ประโยชน์ 5 ด้านที่คุณจะได้จากการเต้นแอโรบิก

ถ้าหากพูดถึงกีฬาที่ส่งผลต่อชีวิตประจำวันของคนไทยมากที่สุด แอโรบิกคงติดหนึ่งในห้า เพราะนอกจากจะเป็นที่นิยมกันของกลุ่มผู้สูงอายุแล้ว ไม่ว่าจะลูกเล็กเด็กแดง เด็กวัยรุ่นหรือเด็กนักเรียนเองก็ตาม แอโรบิกกลายเป็นข้อบังคับของบางโรงเรียนที่จะต้องกายบริหารกันตั้งแต่เช้า หรือกระทั่งจะเป็นการนัดรวมพลมาเพื่อเต้นแอโรบิกตามมหาวิทยาลัยก็เป็นที่นิยมเช่นกัน เพราะนอกจากจะเป็นกีฬาที่เล่นเพื่อสุขภาพ ไม่ได้มีผลแพ้ชนะใด ๆ ไม่ได้มีความรุนแรงต่อร่างกาย แถมยังเสริมสร้างสุขภาพ ได้รับความเพลิดเพลิน หรืออาจเกิดเป็นกลุ่มวงสังคมเพื่อผูกมิตรใหม่ ๆ กับบรรดาคนที่ชอบออกกำลังกายด้วยกันอีกด้วย

“แอโรบิก” ยิ่งเต้นยิ่งดี

1.ส่งเสริมสุขภาพกาย

การเต้นแอโรบิกคือการออกกำลังกายชั้นดีอย่างหนึ่ง โดยมีข้อดีเกี่ยวกับสุขภาพมากมายหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการชะลอการสูญเสียเนื้อเยื่อของสมอง สามารถลดความดัน และทำให้หลอดเลือดแดงมีความแข็งแรงมากขึ้น เหมาะสำหรับคนที่มีความเสี่ยงโรคหัวใจ แถมยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกายอีกด้วย

2.รักษาสุขภาพใจ

นอกจากจะช่วยเรื่องสมองแล้ว ยังเกี่ยวเนื่องมาถึงสุขภาพของอารมณ์ที่มีความสัมพันธ์กันด้วย เพราะแอโรบิกช่วยให้ผ่อนคลาย คลายเครียด อารมณ์ดีมากขึ้น ส่งผลให้สามารถนอนหลับสนิทได้อย่างยาวนาน และมีความต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น

3.สร้างแวดวงสังคม

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแอโรบิกคือการออกกำลังกายแบบกลุ่มที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหลาย ๆ ประเทศรวมถึงไทยของเราด้วย ดังนั้นการทำกิจกรรมด้วยกันย่อมทำให้เราสามารถได้สร้างบทสนทนาร่วมกับผู้ร่วมเต้นแอโรบิก หรือได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้กันได้ในกรอบความสนใจที่มีร่วมกัน

4.เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ

มีผลการศึกษาจากวารสารการแพทย์อย่างจริงจังแล้วว่าการเต้นแอโรบิกช่วยส่งเสริมสมรรถภาพทางเพศให้ดีขึ้น มีความต้องการเพิ่มมากขึ้น และลดอัตราเสื่อมสมรรถภาพลง เพราะเป็นกีฬาที่ทำให้การไหลเวียนของเลือดดี แถมยังกระตุ้นหัวใจด้วย

5.ช่วยให้บุคลิกดี

ไม่ใช่เพียงแค่บุคลิกภายนอกจากการได้รูปร่างที่ฟิตมากขึ้นเพียงเท่านั้น แต่ยังทำให้จิตใจได้มีความเชื่อมั่นในตัวเอง กล้าแสดงออกมากยิ่งขึ้นจากการได้พบปะสังคมใหม่ ๆ การใช้ชีวิตประจำวันจึงมีการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น บุคลิกทั้งภายนอกและภายในก็ดีขึ้นตามไปด้วย

การเต้นแอโรบิกแบบที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้

การใช้เวลาว่างไปกับการเต้นแอโรบิกนับเป็นการตัดสินใจที่ดีทีเดียว เพราะการเต้นแอโรบิกนอกจากจะได้ประโยชน์ต่อสุขภาพแล้ว ยังเป็นการออกกำลังกายที่ไม่น่าเบื่อ ในบางครั้งก็สามารถเพลิดเพลินไปกับผู้นำที่ช่วยเสริมสร้างความฮึกเหิมให้ทำท่าต่าง ๆ ไม่ว่าจะออกกำลังกายด้วยกันกับเพื่อน เต้นกับคนหมู่มาก หรือออกกำลังกายเต้นแอโรบิกคนเดียวอยู่ที่บ้าน ก็สามารถทำได้แบบสบาย ๆ ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เสริมที่จะต้องเพิ่มทุนในการออกกำลังกายแต่อย่างใด อีกทั้งกีฬาแอโรบิกยังช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดีให้กับผู้ออกกำลังกายอีกด้วย

5 รองเท้าสำหรับสายวิ่งที่คนอยากวิ่งไม่ควรพลาด

การวิ่ง ถือเป็นการออกกำลังกายที่ทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่คุณมีเวลาว่างและสถานที่สำหรับวิ่ง ซึ่งสถานที่นั่นก็ไม่ได้กำหนดว่าจำเป็นจะต้องเป็นแค่สนามกีฬาเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งบนลู่วิ่งหรือกระทั่งวิ่งรอบหมู่บ้านก็ล้วนแต่สร้างเสริมสุขภาพที่แข็งแรงได้ แต่ทว่าสิ่งที่สำคัญแทบจะที่สุดสำหรับการวิ่งคือ “รองเท้าวิ่ง” แม้อันที่จริงการวิ่งแบบขำ ๆ ไม่ได้จริงจังอะไรมากก็อาจจะสามารถใช้รองเท้าผ้าใบแบบธรรมดาได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วรองเท้าวิ่งจำเป็นอย่างมากกับการวิ่ง เพราะนอกจากความสะดวกสบายในการสวมใส่ ยังสามารถป้องกันอันตรายจากการวิ่งได้ระดับหนึ่งอีกด้วย

5 คู่รองเท้าทอง

1.Nike Pegasus turbo 2

เป็นรองเท้าที่ขึ้นชื่อเรื่องความปราดเปรียว เพรียวลู่ลม แต่ก็กระชับ ไม่รู้สึกแน่นหรือหลวมจนเกินไป เวลาวิ่งจะสามารถสัมผัสได้ถึงความเบาบาง การกระทบเท้ากับพื้นในแต่ละครั้งน้ำหนักจะถูกรับรองไว้ ด้วยพื้นรองเท้าที่นุ่มใส่สบาย แถมยังมีแรงดีดกลับทำให้สามารถยกขาวิ่งได้อย่างคล่องแคล่วมากขึ้นอีกด้วย

2.PAN Pro Skipper 4

เป็นรองเท้าวิ่งที่ราคาไม่แรงมากแต่ก็มาพร้อมกับมาตรฐานที่รับได้ จากการออกแบบรองเท้าให้ซึมซับแรงกระแทก โอบอุ้มและป้องกันเท้าของเราจากอันตรายได้อย่างดี ที่สำคัญยังมีพื้นรองเท้าที่ยึดเกาะได้ดีไม่ว่าสภาพพื้นผิวไหน เรื่องกลัวลื่นก็หายห่วง

3.ASICS Gel Kayano 25 SP

สิ่งหนึ่งที่พูดได้เต็มปากว่าเป็นข้อดีของรองเท้าคู่นี้คือเป็นรองเท้าที่รักษ์โลก เพราะวัสดุที่นำมาทำ ใช้เส้นใยนาโนเซลลูโลสที่สามารถช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ด้วย เจลที่ใส่มาไว้บริเวณส้นเท้าก็สามารถช่วยพยุงให้การวิ่งเป็นไปได้อย่างปลอดภัยต่อข้อเท้ามากขึ้น

4.Brooks Launch 5

รองเท้าที่ขึ้นชื่อเรื่องความเบาและความเด้งคงต้องเป็น Brooks Launch 5 เลย ถึงแม้พื้นรองเท้าอาจไม่นุ่มนักแต่ก็ได้มาซึ่งความหนึบในการออกแรง และความเด้งในการตีแรงกลับ ทำให้สามารถวิ่งได้อย่างสะดวกมากขึ้น

5.New Balance Fresh Foam Roav

มากไปกว่าดีไซน์ที่ตอบสนองความงามในแง่ของแฟชั่นได้เป็นอย่างดี New Balance Fresh Foam Roav รุ่นนี้ยังมาพร้อมคุณสมบัติพิเศษที่มีการกันกระแทกอย่างดี แถมมีน้ำหนักเบา สามารถใส่ออกกำลังกายได้หลายรูปแบบ

ความเหมาะสมของรองเท้าและผู้สวมใส่

รองเท้าวิ่งแต่ละแบบต่างก็มีความแตกต่างเป็นของตัวเอง กระทั่งยี่ห้อเดียวกันแต่คนละรุ่นก็ยังมีการตอบสนองต่อการใช้ที่แตกต่างกันเช่นกัน และเป็นหน้าที่ของเราเหล่าผู้เล่นเองที่ต้องเลือกสรรรองเท้าที่เหมาะกับลักษณะเท้าและจังหวะการวิ่งของเราให้มากที่สุด จริงอยู่ที่รองเท้าวิ่งอาจมีราคาสูงไปบ้าง แต่ก็คงไม่ถือว่าแพง เพราะระยะการใช้งานเฉลี่ยต่อราคาแล้วก็ถือว่าคุ้มค่า ซื้อครั้งเดียวก็สามารถใช้งานได้ยาวนานเป็นปี ดังนั้นการทำความรู้จักกับรองเท้าวิ่งหลาย ๆ แบบให้ดีเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการตัดสินใจซื้อรองเท้าคู่ของตัวเองก็ถือเป็นเรื่องจำเป็นต่อการวิ่งไม่น้อยเลยทีเดียว

ชวนเที่ยวสวนสัตว์ 5 แห่งที่มุ่งเน้นด้านการอนุรักษ์และศึกษา

สวนสัตว์ในปัจจุบันอาจกลายเป็นสถานที่ที่ซึ่งคนไม่นิยมกันนัก เพราะหลายครั้งที่เราเจอสัตว์ในนั้นได้รับการเลี้ยงดูและดูแลได้ไม่ดีเท่าที่ควร แต่ในความเป็นจริงแล้วสวนสัตว์หลาย ๆ ที่ก็จำเป็นในบางแง่บางส่วน เป็นต้นว่าเป็นต้นทางของการอนุรักษ์ พยาบาลและอนุบาลสัตว์ อีกทั้งในแง่ของฝั่งสวนสัตว์จากทางรัฐเองก็พยายามจะสร้างภาพจำให้กับคนใหม่ สวนสัตว์ไม่ใช่สถานที่ซึ่งไปเพื่อดูสัตว์แล้วได้รับความบันเทิง หากแต่เป็นการศึกษาและอยู่ร่วมกับธรรมชาติ อีกทั้งเป็นการเพาะพันธุ์เพิ่มเพื่อปล่อยคืนอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สวนสัตว์ที่อยู่ร่วมในองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย

5 สวนสัตว์ที่ยิ่งเที่ยวยิ่งดี

1.สวนสัตว์เปิดเขาเขียว

สวนสัตว์เปิดเขาเขียวเป็นสวนสัตว์แห่งหนึ่งที่มีการจัดการทรัพยากรและสภาพภูมิประเทศให้เหมาะสมกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของสัตว์ชนิดต่าง ๆ เป็นสถานที่ที่ทำให้เราได้สัมผัสธรรมชาติพร้อมกับได้สังเกตุพฤติกรรมของสัตว์หายากหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นสิงโตขาว แรดขาว และที่พลาดไม่ได้คือการดูนกหลากหลายสายพันธุ์

2.สวนสัตว์นครราชสีมา

เนื่องจากสภาพอากาศของที่ตั้งสวนสัตว์แห่งนี้เป็นสภาพที่เหมาะสมกับสัตว์ป่าแถบโซนแอฟริกา ที่มีภูมิอากาศแบบร้อนแห้ง ทำให้สวนสัตว์แห่งนี้มีจุดเด่นคือมีสัตว์ป่าผู้ยิ่งใหญ่ของทุ่งแอฟริกาหรือที่เรียกว่า Big Five เช่น สิงโต แรดขาว และควายป่าแอฟริกา

3.สวนสัตว์สงขลา

นอกจากความรู้ที่ได้จากการสังเกตวิถีชีวิต และพฤติกรรมของเหล่าสัตว์น้อยใหญ่นานาชนิดแล้ว สวนสัตว์สงขลายังมีสิ่งที่น่าสนใจเพิ่มขึ้นมาอีก คือจุดชมวิวซึ่งสามารถชมวิวเมืองสงขลาได้อย่างสวยงามและน่าประทับใจ

4.สวนสัตว์อุบลราชธานี

เนื่องจากเป็นสวนสัตว์ที่ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวน สวนสัตว์อุบลราชธานีจึงมีจุดเด่นที่น่าสนใจคือลักษณะการจัดพื้นที่ให้สัตว์ได้อยู่อาศัยกันแบบ Jungle Park คือนำสัตว์เข้ามาอยู่ในป่าแบบทำลายทรัพยากรธรรมชาติจากดั้งเดิมให้น้อยที่สุด ทำให้ได้เห็นชีวิตของสัตว์ป่าอย่างแท้จริง

5.สวนสัตว์ขอนแก่น

ยังไม่ทันได้ก้าวเข้าไปก็เห็นมาแต่ไกลจากรูปปั้นกวางที่อยู่หน้าสวนสัตว์ว่าสถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งศึกษาชั้นดีสำหรับคนที่สนใจเรื่องความเป็นอยู่ของกวาง เพราะเป็นสัตว์ที่มีมากในบริเวณนั้น แถมยังมีการปล่อยกวางจากสวนสัตว์ขอนแก่นคืนสู่ธรรมชาติที่ทุ่งแสนกวางอีกด้วย

การทำงานของสวนสัตว์

นอกจาก 5 แห่งนี้แล้ว สวนสัตว์อื่น ๆ ที่เข้าร่วมกับองค์การสวนสัตว์เองก็มีนโยบายเพื่ออนุรักษ์เช่นกัน สัตว์บางตัวอาจเข้าใกล้ขีดการสูญพันธุ์มาก และอาจหาแหล่งที่อยู่ตามธรรมชาติได้ยาก การได้รับความดูแลจากสวนสัตว์เป็นอีกหนทางหนึ่งซึ่งจะอนุรักษ์พันธุ์สัตว์เหล่านี้ไว้ได้ เจ้าหน้าที่จากทางสวนสัตว์เองก็ได้รับการอบรมและฝึกฝน มีความรู้เกี่ยวกับการดูแลสัตว์อย่างดี มีการตรวจสอบการทำงานและการดูแลสัตว์ให้ได้ตามมาตรฐาน อีกทั้งยังมีการทำงานวิจัยต่าง ๆ เพื่อขยายองค์ความรู้ อีกหนึ่งความสำคัญที่เราได้รับจากสวนสัตว์ที่มีคุณภาพและทำเพื่อการศึกษา คือการปลูกจิตสำนึกให้กับผู้ไปเที่ยวชมและเด็ก ๆ ที่ได้เห็นสัตว์ทั้งหลาย ให้มีความรักและนึกอยากดูแลปกป้องสัตว์เหล่านี้ ไม่ให้สูญพันธุ์ไป

5 พิพิธภัณฑ์น่าเที่ยว แปลกแต่สนุก ผู้ใหญ่ไปได้ เด็กไปดี

พิพิธภัณฑ์อาจฟังดูเป็นสถานที่ที่น่าเบื่อสำหรับใครหลาย ๆ คน แต่อันที่จริงแล้วในประเทศไทยเรายังมี “พิพิธภัณฑ์” สำหรับจัดแสดงงานที่น่าสนใจอีกมาก ที่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีคนรู้จักกัน วันนี้บทความของเราจึงจะพาไปรู้จักกับพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจจากหลากหลายเรื่องราว ที่นอกจากจะได้ความรู้แล้ว ยังได้รับความสนุกและเพลิดเพลินไปกับข้อมูลที่ได้ ที่บางครั้งก็อาจสะกิดต่อมความทรงจำของเรื่องราวในวันวานที่ตัวเองอาจไม่เคยหวนนึกถึง และกลายเป็นทริปท่องเที่ยวที่น่าจดจำอีกครั้งหนึ่งก็เป็นได้

5 พิพิธภัณฑ์สุดแปลก

1.พิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาหมี

ถ้าได้ไปเยือนพัทยาก็ควรลองไปเยี่ยมชมที่พิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาหมีสักครั้ง เพราะแค่ฟังชื่อก็น่าสนใจแล้ว โดยการจัดแสดงของพิพิธภัณฑ์นี้จะเน้นเรื่องของการนำตุ๊กตาหมี เทดดี้ แบร์ ให้ได้อยู่ตามสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ที่เหมาะแก่การถ่ายรูปเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นโซนเผ่าอินคาที่เสริมความรู้เรื่องศิลปะต่าง ๆ หรือจะเป็นโซนไดโนเสาร์ที่สอดแทรกตุ๊กตาหมีเข้าไปได้อย่างน่ารักน่าชัง

2.พิพิธภัณฑ์สินค้าปลอมและสินค้าเลียนแบบติลลีกีแอนด์กิบบินส์

ถ้าพูดถึงพิพิธภัณฑ์แปลก ๆ ที่น่าสนใจ อย่างไรเสียที่นี่ก็คงเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ติดโผอย่างแน่นอน เนื่องมาจากเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมของปลอมที่ได้มาจากการจับกุม หรือไว้ใช้ประกอบคดีความ แถมยังมีการนำสินค้าของจริงมาวางเปรียบเทียบกันอีกด้วย

3.พิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์ไทย

สถานที่แห่งนี้ได้รวบรวมความทรงจำตั้งแต่สมัยที่ภาพยนตร์เพิ่งเข้ามาในเมืองไทยใหม่ ๆ ทั้งเรื่องการถ่ายทำ และการจัดฉาย แถมยังแบ่งแยกโซนออกเป็นอาคารต่าง ๆ ที่มีความวิจิตรงดงามอย่างมาก อีกทั้งยังมีลานดาราสำหรับจารึกชื่อของดาราค้างฟ้าที่ประดับวงการภาพยนตร์ไทยเอาไว้ด้วย

4.อุทยานสามก๊ก

ถ้าชีวิตต้องการเติมธรรมชาติใบหญ้าสีเขียวและท้องฟ้าใส ๆ อุทยานสามก๊กคืออีกที่หนึ่งซึ่งน่าสนใจ เพราะนอกจากจะเต็มไปด้วยความสวยงามของสวนที่จัดแต่งไว้อย่างดี และอาคารทรงจีนที่บรรจงออกแบบมาอย่างดี ยังอุดมไปด้วยเรื่องราวความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทย-จีนมากมาย

5.พิพิธภัณฑ์ แบทแคท มิวเซียม แอนด์ ทอยส์ ไทยแลนด์

ความยิ่งใหญ่ระดับโลกของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ช่วยขับให้สิ่งที่จัดแสดงโดดเด่นขึ้นมาทันใด เพราะมีของเล่น “แบทแมน” เยอะที่สุดในเอเชีย จากความรักของคุณสมชาย นิติมงคลชัย ผู้ซึ่งเป็นนักสะสมของเล่นที่อยากแบ่งปันประวัติศาสตร์ผ่านของเล่นที่หลากหลายในแบบฉบับที่น่าสนใจมากขึ้น

การเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์

พิพิธภัณฑ์นอกจากจะเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับคู่รักวัยรุ่นในปัจจุบัน ก็มีหลาย ๆ ครั้งที่ถูกนำมาใช้เป็นสถานที่สำหรับทัศนศึกษา ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะนอกจากจะได้รับความสนุกสนานเพลิดเพลินแล้ว ยังได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ เป็นการเรียนรู้ที่ได้รับประสบการณ์ร่วม แถมยังเป็นการปลูกความรักในการแสวงหาความรู้ไว้ในจิตใจอีกด้วย เพราะไม่ใช่เพียงแค่การรอรับข้อมูลที่ถูกป้อนเข้าไป แต่พิพิธภัณฑ์เน้นเป็นความสนใจเฉพาะเรื่องตามที่ผู้ไปเที่ยวชมต้องการ อีกทั้งยังเป็นการรวบรวมหลาย ๆ เรื่องเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้สามารถเลือกสรรเรื่องที่สนใจเฉพาะอย่างได้ แต่ก็ได้ความรู้ในแขนงเดียวกันเพิ่มไปด้วย อีกทั้งหลาย ๆ พิพิธภัณฑ์ก็มีค่าใช้จ่ายไม่แพงจนเกินไป กระทั่งบางที่ก็สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ฟรีอีกด้วย

5 สถานที่น่าเที่ยวสำหรับทริปประหยัด ไปง่าย ๆ แค่ขึ้นรถไฟ

การไปเที่ยวด้วยรถไฟ แค่ฟังชื่อก็นึกถึงความขดแข็งของหลังที่ต้องเผชิญกับเบาะและพนักพิง อีกทั้งเวลาอันแสนยาวนานที่หลายคนบอกว่าเข็ดขยาด แต่แท้จริงแล้วเสน่ห์ของการไปเที่ยวด้วยรถไฟ นอกจากจะมีดีเรื่องการประหยัดงบแล้ว หากเป็นคนที่ไม่เคยได้ลองขึ้นเลย ก็อาจใช้เวลาเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่กี่ชั่วโมงในการเปิดประสบการณ์และท่องโลกใหม่ ๆ ให้กับตัวเอง เพราะวิวที่เห็นผ่านหน้าต่างและเสียงรถไฟกระทบราง คงไม่เหมือนที่ได้เห็นหรือได้ยินจากคนอื่นเล่า หรือกระทั่งวีดีโอในอินเทอร์เน็ตอย่างแน่นอน

5 สถานี ต้องห้ามพลาด

1.ตลาดร่มหุบ

ถ้าพูดถึงรถไฟกับสถานที่ท่องเที่ยวแล้วจะพลาดที่นี่ไปไม่ได้เลย เพราะเป็นตลาดที่จะหุบร่มทุกครั้งที่มีรถไฟแล่นผ่าน ณ สถานีแม่กลอง เป็นตลาดที่ครึกครื้นและคับคั่งไปด้วยนักท่องเที่ยว ที่มาสัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้านแม่ค้าพ่อค้าในชุมชน กับไฮไลท์เด็ดก็คือการหุบร่มนั่นเอง

2.สวนนงนุช

เส้นทางไปสู่บ้านพลูตาหลวงคือเส้นทางที่อุดมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายมาก หนึ่งในนั้นคือสวนนงนุช สถานที่ซึ่งจัดแต่งไว้สวยงาม และสิ่งที่พลาดไม่ได้คือบรรดาเหล่าไดโนเสาร์ขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับการเรียนรู้และท่องเที่ยวไปในคราวเดียวกัน

3.ตลาด 100 ปี ชุมแสง

ละครเรื่องดังเมื่อไม่นานมานี้ทำให้นครสวรรค์กลายเป็นจังหวัดที่ใครหลายคนอยากไปลองเยือนสักครั้ง โดยเฉพาะชุมชนชุมแสงจากละครเรื่อง “กรงกรรม” ที่เราสามารถไปเที่ยวผ่านเส้นทางรถไฟสถานีชุมแสง โดยใช้เวลาไม่มาก อยากไปพักผ่อนหย่อนใจกันแบบไปเช้าเย็นกลับก็สะดวกสบาย

4.สวนสนประดิพัทธ์

อีกหนึ่งเส้นทางยอดฮิตคือการนั่งรถไฟไปเที่ยวกรุงเทพ ซึ่งเป็นสิ่งที่เข้ากันมาก เพราะสามารถไปเที่ยวกันแบบ One Day Trip ได้ ความเงียบสงบและบรรยากาศที่สดใส ชายหาดและเสียงคลื่นที่ช่วยทำให้ผ่อนคลาย ที่สำคัญคือใช้เงินไม่มากนักก็สามารถมาเยือนหัวหินได้แล้ว

5.หัวตะเข้

อีกหนึ่งทริปราคาย่อมเยาที่ใช้เวลาออกจากเมืองกรุงไม่นานก็เหมือนได้ก้าวข้ามผ่านมายังอีกโลกหนึ่ง หัวตะเข้มีเสน่ห์ที่น่าดึงดูดคือความเป็นชุมชนแบบดั้งเดิม อีกทั้งยังมีกราฟิตี้สวย ๆ ตามผนังให้ได้ถ่ายรูปกันอีกด้วย เรียกได้ว่าสายอาร์ตต้องห้ามพลาดอย่างแน่นอน

ความประทับใจจากรถไฟ

การไปเที่ยวด้วยรถไฟไม่จำเป็นต้องเป็นทริประยะยาวเสมอไป ในบางครั้งก็เป็นเพียงแค่การลองเรียนและลองรู้ ได้รับประสบการณ์ที่ไม่ได้หาได้ง่าย ๆ ชั่วเวลาไม่นานสำหรับการนั่งบนนั้นอาจทำให้เราได้ตกตะกอน ได้พบได้เห็นบางสิ่งที่จะกลายเป็นอีกหนึ่งความทรงจำอันล้ำค่าในอนาคต ทั้งนี้การไปเที่ยวอย่างยากลำบากก็อาจไม่ได้น่าประทับใจเสมอไป ดังนั้นแล้วการเที่ยวแบบพอดี ๆ จึงดูจะเป็นทางออกที่สมควรที่สุด รถไฟอาจเป็นหนึ่งในเศษเสี้ยวของการเดินทางอันแสนยิ่งใหญ่ในช่วงหยุดยาวสักครั้ง หรือเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของ One day trip สบาย ๆ ในวันหยุดสักวัน นี่จึงกลายเป็นเสน่ห์ของการเดินทางด้วยรถไฟแบบที่ยากจะหาจากที่ไหนได้

ชวนเที่ยวทั่วไทย รวมวัดดังให้ไปขอพรกันจากทุกภาค

เมื่อไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็ต้องเอาด้วยกล ถ้าไม่ได้ด้วยมนตร์ ก็ต้องเอาด้วยคาถา ความเชื่อเกี่ยวกับการขอพรจากพระหรือจากเทพเจ้าเป็นที่นิยมกันมานมนานสำหรับชาวไทยอย่างพวกเรา แถมยังขยายเป็นวงกว้างที่ไม่ว่าจะเหนือใต้ออกตก ทุกสารทิศจะต้องมีวัดเด่นวัดดังสำหรับการขอพรในแต่ละเรื่องที่ศักดิ์สิทธิ์ไม่แพ้กัน แถมยังเน้นไปคนละเรื่องอีกด้วย ดังนั้นแล้วถ้าหากอยากจะลองเที่ยวทั่วไทย หรือมีโอกาสได้ออกไปถึงภูมิภาคที่ไม่ค่อยได้ไปแล้ว การตามไปไหว้พระวัดดังจากภาคต่าง ๆ ก็ถือเป็นกิจกรรมอันพลาดไม่ได้สำหรับการออกทริปเลยทีเดียว

5 วัดดังห้ามพลาด

1.ศาลเจ้าท่ามก๋งเยี้ย – จังหวัดตรัง ภาคใต้

เรื่องเด่นเรื่องดังสำหรับการขอพรที่นี่คือการขอลูกนั่นเอง แต่การขอพรเรื่องอื่น ๆ ก็ศักดิ์สิทธิ์บันดาลให้ตามคำขอจนกลายเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวตรังมาเนิ่นนาน ที่สำคัญเซียมซีที่นี่ยังแม่นสุด ๆ อีกด้วย

2.วัดลอยเคราะห์ – จังหวัดเชียงใหม่ ภาคเหนือ

เรียกได้ว่าเป็นวัดชื่อมงคลที่มีความมงคลดั่งชื่อ เพราะมีความเชื่อกันว่าถ้าหากได้มาสักการะบูชา กราบไหว้หรือทำบุญที่วัดแห่งนี้แล้ว จะได้ลอยความทุกข์ ความโศก ลอยเคราะห์ ให้ห่างหายไปจากเราได้

3.วัดพุทไธศวรรย์ – จังหวัดอยุธยา ภาคกลาง

ถ้าหากกำลังมีปัญหาทางด้านสุขภาพหรืออยากมีลูก แนะนำว่าควรมากราบไหว้หลวงพ่อดำที่วัดแห่งนี้ หรือจะเป็นเรื่องหน้าที่การงานก็นิยมมากราบไหว้พระนอนกันมาก

4.วัดเจติยภูมิ (วัดพระธาตุขามแก่น) – จังหวัดขอนแก่น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

นิยมมากราบไหว้กันในเรื่องของการทำเรื่องร้ายให้กลับกลายเป็นดี อีกทั้งยังนิยมขอในเรื่องความรัก ให้รักกันได้ยืนยาวและยั่งยืน หรือเรื่องโรคภัยไข้เจ็บก็จะมลายสลายไป

5.วัดเกวียนหัก – จังหวัดจันทบุรี ภาคตะวันออก

ถ้าหากใครเป็นพ่อค้าแม่ขายต้องห้ามพลาดวัดเกวียนหักเลยทีเดียว เพราะคนส่วนใหญ่นิยมมากราบไหว้เพื่อเสริมเรื่องของโชคลาภ การงาน ยิ่งคนที่อยากขอพรเรื่องค้าขายและเศรษฐกิจก็นิยมมากราบไหว้กัน และยังช่วยสนับสนุนเรื่องเมตตามหานิยม รวมไปถึงเรื่องความรักอีกด้วย

การเตรียมตัวไปไหว้พระ

หลาย ๆ ที่อาจทำให้เกิดความไม่สะดวกสบายในการไปกราบไหว้บูชากันเสียหน่อย เหตุเนื่องมาจากจำนวนผู้คนและสภาพอากาศที่ไม่ค่อยเป็นใจนัก นี่เองจึงเป็นเหตุผลที่ถ้าหากทริปใดพาผู้สูงอายุร่วมก๊วนไปด้วย หรือกระทั่งเด็ก ๆ ที่อาจจะอ่อนไหวต่อเรื่องฝนฟ้าอากาศ ก็จำเป็นต้องมีการเตรียมตัวอย่างดี อาจมีหมวกหรือแว่นกันแดดโดยเฉพาะ น้ำดื่มสำหรับดับกระหาย หรืออาจมองหาร้านกาแฟเหมาะ ๆ ใกล้ ๆ เพื่อสำหรับพักผ่อนก่อนออกเดินทางไปที่ต่อ ๆ ไป เพราะการไปขอพรควรทำจิตใจให้สงบและผ่องใส พรที่สัมฤทธิ์ผลก็ย่อมมาจากผู้ขอที่มีจิตใจเบิกบานนั่นเอง

ไป “ท้องฟ้าจำลอง” นอกจากดูดาวแล้ว ยังทำอะไรได้อีก ?

“ท้องฟ้าจำลอง” คือสถานที่หนึ่งในความทรงจำของใครหลาย ๆ คน กระทั่งคนที่ยังไม่เคยไปเยือนก็ตาม แต่ท้องฟ้าจำลองก็ยังมีพื้นหลังที่ทำให้เราได้นึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นผ่านภาพยนตร์ซึ่งอาจเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของหนังรักไทยอย่าง “รถไฟฟ้ามาหานะเธอ” ที่มีฉากเดทกันที่ท้องฟ้าจำลอง กระทั่งการทัศนศึกษาของเด็ก ๆ ก็มีบ่อยครั้งที่ท้องฟ้าจำลองจะกลายเป็นตัวเลือกแรก ๆ สำหรับสถานที่ซึ่งให้ทั้งความรู้และประสบการณ์กับเด็ก ๆ ดังนั้นแล้วจึงไม่แปลกที่มันจะกลายเป็นสถานที่ยอดฮิตสำหรับครอบครัวและคู่รัก หรือบางครั้งการไปท้องฟ้าจำลองคนเดียวก็กลายเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำอีกครั้งหนึ่งเช่นกัน

3 นิทรรศการเปี่ยมความรู้คู่ความสนุก

1.วิทยาศาสตร์

หากวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เป็นวิชาที่น่าเบื่อสำหรับคุณหรือเด็ก ๆ แล้ว นิทรรศการแห่งนี้จะเปลี่ยนความคิดเหล่านั้นไปตลอดกาล เพราะความสนุกในการได้ทดลองใช้เครื่องมือ หรือมีประสบการณ์ตรงเมื่อได้ลองทดสอบอุปกรณ์ต่าง ๆ ด้วยตัวเอง ย่อมทำให้เห็นถึงความมหัศจรรย์ของเทคโนโลยี ดาวเทียม หรือกระทั่งเรื่องแรงโน้มถ่วง ความฝันในการเป็นนักบินอวกาศก็ถูกยกมาตั้งไว้ในชีวิตจริงได้ จากการเล่นเครื่องเล่นวิทยาศาสตร์ของที่นี่

2.มหัศจรรย์ชีวิตในสายน้ำ

มาดูดาวแต่ได้ผลพ่วงคือได้ดูปลาด้วย เพราะนิทรรศการแห่งนี้จะเสนอให้เห็นถึงวิถีชีวิตของปลาต่าง ๆ ที่มีหลากหลายไม่จำเจ สามารถเรียนรู้ได้ด้วยการสังเกตุพฤติกรรมของสัตว์น้ำผ่านตู้กระจก แม้ว่าอาคารจะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่ไม่ว่าจะเป็นน้ำจืดหรือน้ำทะเล กระทั่งสัตว์น้ำชนิดอื่น ๆ ก็มีจัดแสดงให้ความรู้แบบครบครันเช่นกัน

3.ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

เป็นนิทรรศการที่ยิ่งใหญ่และหลากหลายมาก เพราะประกอบไปด้วยเรื่องราวน่าสนใจในแต่ละชั้นแบบไม่ซ้ำกัน โดยมีทั้งหมดถึง 8 ชั้นด้วยกัน แต่ที่น่าจะถูกใจคนส่วนใหญ่คงหนีไม่พ้นเรื่องของไดโนเสาร์ นอกจากนั้นก็มีการจัดแสดงความรู้เรื่องของสัตว์ป่า วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ อีกทั้งเรื่องของแมลงก็กลายเป็นอาณาจักรขนาดใหญ่ที่จะเพิ่มพูนความรู้ให้กับผู้เข้าเที่ยวชม หรือจะเป็นโซน “เมืองเด็ก” ที่มีสถานที่ให้เด็ก ๆ ได้ทำกิจกรรมเรียนและเล่นไปพร้อม ๆ กันได้อย่างสนุกสนานอีกด้วย

เสน่ห์ของท้องฟ้าจำลอง

ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ไหน ต่างก็มีกลิ่นอายที่ชัดเจนในตัวเอง พูดถึงท้องฟ้าจำลอง บ่อยครั้งเรานึกถึงห้องโล่งกว้าง เก้าอี้แหงนมองเพดานสีดำสนิท กับหมู่ดวงดาวมากมายพร้อมคำบรรยายและแอร์เย็นฉ่ำ จนกระทั่งการหลับในท้องฟ้าจำลองก็ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องเล่าที่น่าจดจำ ท้องฟ้าจำลองในปัจจุบันจึงยังได้รับความนิยมเสมอ เพราะไม่ใช่เพียงแค่ความรู้เกี่ยวกับเรื่องดาราศาสตร์เท่านั้น ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาแห่งนี้ยังอุดมไปด้วยความรู้จากหลากหลายแขนง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ ศาสตร์แห่งธรรมชาติ หรือกระทั่งเรื่องของระบบนิเวศของสิ่งมีชีวิตใต้น้ำ เรียกได้ว่ามาที่เดียวก็เที่ยวเต็มอิ่มกันได้ทั้งวันเลยทีเดียว โดยเฉพาะกับเด็ก ๆ ที่ทำให้การเรียนรู้ไม่ใช่เพียงแค่การท่องตำราในห้องเรียนเท่านั้น